แฟรงค์ แลมพาร์ด ผู้พา เชลซี เดินไปในทิศทางที่ถูกต้อง

เชลซี สโมสรยักษ์ใหญ่แห่งศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ถูกล้อมรอบด้วยคำถามใหม่มากมายในซีซั่นนี้ แต่ในเกมลีกเมื่อวันอาทิตย์ที่ 8 มีนาคมที่ผ่านมา ซึ่งพวกเขาเปิดรังสแตมฟอร์ด บริดจ์ ไล่ถล่ม เอฟเวอร์ตัน ขาดลอย 4-0 นั้น พลพรรคเชลซีสร้างคำตอบที่น่าตื่นเต้นอีกครั้ง ในเกมกับเอฟเวอร์ตัน นั้น เชลซี โชวฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยม และซัดไป 4 ประตูจาก เมสัน เมาท์ กองกลางดาวรุ่งชาวอังกฤษ, เปโดร ปีกชาวสเปน, วิลเลี่ยน ตัวรุกชาวบราซิล และโอลิวิเย่ร์ ชิรูด์ ดาวยิงชาวฝรั่งเศส ขณะเดียวกัน ทีมเยาวชนของ เชลซี ได้ปั้นนักเตะขึ้นสู่ทีมชุดใหญ่เป็นที่เรียบร้อยแล้ว นั่นก็คือ บิลลี่ กิลมอร์ กองกลางชาวสก็อตแลนด์วัย 18 ปี ซึ่งโชว์ฟอร์มได้อย่างโดดเด่นในเกมเอฟเอ คัพ ที่เชลซี เอาชนะ ลิเวอร์พูล 2-0 เมื่อวันที่ 4 มีนาคมที่ผ่านมา และได้ลงเล่นเป็นตัวจริงในเกมลีกครั้งแรกกับเอฟเวอร์ตัน 

ถึงแม้ว่ากิลมอร์จะมีอายุแค่เพียง 18 ปี แต่การปรากฏตัวของเขาดูเหมือนจะมีผลต่อการเปลี่ยนแปลงในแดนกลางของ เชลซี เป็นอย่างมาก ซึ่งดาวเตะจากแดนวิสกี้ ถือเป็นคลื่นลูกใหม่ที่น่าจับตามองของเชลซีป็นอย่างยิ่ง หลังจากที่เชลซี ชนะเพียง 1 จากเกมลีก 6 นัดล่าสุดที่พวกเขาลงสนามนั้น มันส่งผลให้โควตา ท็อปโฟร์คว้าตั๋วไปเล่นในยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ในฤดูกาลหน้ายังคงเปิดกว้าง โดยปัจจุบันเชลซีรั้งอันดับ 4 ของตารางคะแนน และเก็บไป 48 แต้ม นำหน้าแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เพียงแค่ 3 คะแนนเท่านั้น แฟนบอล เชลซี ยังคงมีความสุขกับฤดูกาลของพวกเขาภายใต้การนำของกุนซือ แฟรงค์ แลมพาร์ด อดีตจอมทัพของทีม โดยตลอดทั้งเกมกับ เอฟเวอร์ตัน นั้น สาวกสิงห์บลูส์ต่างตะโกนร้องเพลง “ซูเปอร์แฟรงค์” ตลอดทั้งเกม ซึ่งมมันก็ตอกย้ำความเชื่อมั่นในตัว แลมพาร์ด ว่า เป็นคนที่ใช่สำหรับอนาคตของสโมสร

แลมพาร์ด ยอมรับหลังจากจบเกมที่ เชลซี เอาชนะ เอฟเวอร์ตัน ว่ามันเป็นฟอร์มการเล่นในถิ่นสแตมฟอร์ด บริดจ์ ที่สมบูรณ์แบบ และเขาก็ยอมรับว่าเชลซีไม่ใช่ทีมเดียวที่มีโอกาสจบฤดูกาลในอันดับท็อปโฟร์ หลังจากผ่านช่วงเวลาที่ยากลำบากในช่วงที่ แทมมี่ อับราฮัม กองหน้าดาวรุ่งชาวอังกฤษ ซึ่งเป็นผู้ทำประตูสูงสุดของทีมได้รับบาดเจ็บ ชิรูด์เกือบจะย้ายออกจากสโมสรในตลาดนักเตะเดือนมกราคมที่ผ่านมา เกป้า อาร์ริซาบาลากา นายทวารชาวสเปน ฟอร์มตก และวิลเลี่ยน มีปัญหาเรื่องสัญญาฉบับใหม่นั้นเชลซีกลับคืนสู่เส้นทางที่ดีอีกครั้ง 

แลมพาร์ด กล่าวหลังจบเกมกับ เอฟเวอร์ตัน ผ่าน “บีบีซี” สื่อกีฬาชั้นนำแดนผู้ดีว่า “ทัศนคติทั้งหมดและความมุ่งมั่นของทีมนั้น ผมรู้สึกว่าเราแข็งแกร่งมากหลังจากเกมกับ ลิเวอร์พูล เราต้องทำแบบนี้ต่อไปให้ได้ สิ่งที่เราทำในวันนี้มันเป็นแค่ระดับหนึ่งเท่านั้น ทุกสัปดาห์เรามีช่วงเริ่มเกมต้นที่ดี และในฤดูกาลนี้เราพยายามดิ้นรนเพื่อความสม่ำเสมอในเรื่องฟอร์มการเล่น ซึ่งผมสามารถเข้าใจได้ แต่เราต้องทำงานเหมือนที่เราทำงานในวันนี้เพื่อแสดงให้เห็นว่าเราสามารถจบซีซั่นด้วยความแข็งแกร่ง และดีขึ้นได้” นายใหญ่ เชลซี กล่าว

เชลซี เปลี่ยนแปลงไปหลายๆอย่างภายใต้ โรมัน อบราโมวิช เจ้าของสโมสรชาวรัสเซีย ในขณะที่ เอฟเวอร์ตัน นั้น คุมทีมโดย คาร์โล อันเชลอตติ อดีตเทรนเนอร์ชาวอิตาเลียนของเชลซี ผู้เคยพาทีมคว้าดับเบิ้ลแชมป์ประกอบไปด้วยเอฟเอ คัพ และลีก คัพ ในฤดูกาล 2009-10 อย่างไรก็ตาม เชลซี ยุคใหม่ภายใต้การคุมทีมของ แลมพาร์ด การคว้าอันดับ 4 ตอนจบฤดูกาล และการผ่านเข้าไปเล่นในนัดชิงชนะเลิศของศึกฟุตบอลเอฟเอ คัพ ก็ถือเป็นความสำเร็จภายใต้ผู้จัดการทีมคนหนุ่มที่แสดงให้เห็นว่า เหมาะสมกับแผนการระยะยาวของสโมสร การถูกแบนห้ามซื้อ-ขายนักเตะของเชลซี เมื่อฤดูร้อนปีที่แล้วนั้น ทำให้มั่นใจได้ว่า พวกเขาเขาจะต้องใช้ผู้เล่นดาวรุ่งหลายๆคนในสนาม และมันก็เป็นกรณีเดียวกับ กิลมอร์ ที่ได้ลงเล่นในเกมกับ เอฟเวอร์ตัน เนื่องจาก จอร์จินโญ ห้องเครื่องทีมชาติอิตาลี และมัตเตโอ โควาซิส กองกลางทีมชาติโครเอเชีย ได้รับบาดเจ็บ อย่างไรก็ตาม แลมพาร์ด พร้อมที่จะวาง กิลมอร์ ไว้เป็นกำลังสำคัญในอนาคตระยะยาว โดยนักเตะดาวรุ่งอย่าง ฟาอุสติโน่ อันโจริน มิดฟิลด์วัย 18 ปี และ อาร์มานโด้ โบรฆ่า กองหน้าดาวรุ่งวัย 18 ปี ชาวแอลเบเนีย ต่างก็ได้รับโอกาสสัมผัสเกมกับ เอฟเวอร์ตัน เช่นเดียวกัน 

มาร์ติน เบอร์ริดจ์ แฟนบอล เชลซี ผู้ถือตั๋วปีของสโมสร กล่าวกับ “บีบีซี” ว่า “มันน่าพอใจอย่างมาก ทุกคนตระหนักดีว่า แลมพาร์ด กำลังทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมกับสิ่งที่เขาได้รับ และแฟนบอลอย่างเรารู้สึกสดชื่นมากที่ได้เห็นผู้เล่นอายุน้อยจำนวนมากกำลังเข้าไปสู่ทีมชุดใหญ่ ถ้าเราคว้าแชมป์เอฟเอ คัพ และจบฤดุกาลด้วยอันดับ 4 มันจะเป็นฤดูกาลที่ยอดเยี่ยมอย่างแน่นอน”

ร็อด แฟนบอลอีกรายหนึ่งของ เชลซี กล่าวว่า “ผมไม่ได้คาดหวังอะไรเลยในฤดูกาลนี้ ผมมีความสุขแม้เราจะตกชั้น เพราะผมเชื่อว่าเราจะกลับมาได้ ผมคาดหวังว่า เราจะซื้อใครบางคนในตลาดนักเตะเดือนมกราคมที่ผ่านมา แต่สิ่งที่ทำให้ผมประทับใจมากที่สุดคือ ผู้เล่นในทีมเยาวชนได้เข้ามาสู่ทีมชุดใหญ่ และประสบความสำเร็จ แต่คุณต้องสร้างความสำเร็จด้วยการซื้อนักเตะบ้าง และมันเป็นปัญหาของ เชลซี หากพวกเขาสามารถให้เวลากับ แฟรงค์ ได้สร้างทีม และให้เขาซื้อนักเตะเมื่อจำเป็นนั้น มันเป็นสูตรสำหรับความสำเร็จในระยะยาวอย่างแน่นอน”

ฮู้ด แฟนบอลอีกรายหนึ่งของ เชลซี กล่าวว่า เขาได้รับความประทับใจจากทักษะการจัดการคนของแลมพาร์ด ในการที่โค้ชวัย 41 ปี ผสมผสานการปั้นนักเตะดาวรุ่งอายุน้อยให้เล่นร่วมกับบรรดานักเตะตัวเก๋าในทีมชุดแรกอย่างกลมกลืน ในแนวรุกนักเตะตัวเก๋าอย่าง ชิรูด์, เปโดร และ วิลเลี่ยน ต่างได้โอกาสสลับกันลงสนามกับ อับราฮัม, คัลลั่ม ฮัดสัน โอดอย ปีกดาวรุ่งชาวอังกฤษ และคริสเตียน พูลิซิส ตัวรุกทีมชาติสหรัฐอเมริกา และฟอร์มของ เชลซี ไม่ได้ตกลงไปมากนัก สิ่งเหล่านี้จะเป็นบทเรียนที่ แลมพาร์ด ยังอยู่ในช่วงของการจะได้เรียนรู้จากสิ่งต่างๆ เขายังรับรู้ถึงความจำเป็นในการปรับปรุง เชลซี อีกมาก หากดูที่ตารางคะแนนพรีเมียร์ลีก ซึ่งพวกเขายังตามหลัง ลิเวอร์พูล ทีมจ่าฝูงอยู่ 34 คะแนน

ขณะเดียวกัน การพ่ายแพ้คาบ้านให้กับทีมอย่าง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในเกมลีก และพ่ายให้กับ บาเยิร์น มิวนิค ในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก นั้น ถือเป็นบทเรียนสำคัญของ แลมพาร์ด และ ลูกทีมที่จะต้องไปปรับปรุง หากเชลซีสามารถคว้าตั๋วไปเล่นในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ในฤดูกาลหน้า และแม้แต่คว้าแชมป์เอฟเอ คัพ ได้นั้น แลมพาร์ดคงถูกมองว่า เขากำลังทำงานในทิศทางที่ถูกต้องแล้ว และความเชื่อมั่นสำหรับแฟนบอลของเชลซีที่มีต่อตัวเขานั้น ยังคงจะเติบโตขึ้นเรื่อยๆ

FOOTBALL TRICK